3.1

มาร์คัส แรชฟอร์ด เปิดใจอาจถึงเวลาที่ต้องอำลา แมนยู

มาร์คัส แรชฟอร์ด เปิดใจอาจถึงเวลาที่ต้องอำลา แมนยู

มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าชาวอังกฤษของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับตนพร้อมที่จะออกไปหาความท้าทายใหม่ หลังมีรายงานว่า “ปีศาจแดง” พร้อมรับข้อเสนอขายเขาออกจากทีม

หัวหอกวัย 27 ปี เพิ่งจะโดนตัดชื่อออกจากทีมในเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ที่บุกชนะ แมนซิตี้ 2-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย รูเบน อโมริม ผู้จัดการทีมตัดสินใจทำแบบนั้นโดยดูจากฟอร์มการเล่นของนักเตะในช่วงที่ผ่านมา

จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้มีรายงานจากสื่อหลายสำนักที่ระบุไปในทิศทางเดียวกันว่า แมนยูไนเต็ด พร้อมปักป้ายขาย แรชฟอร์ด ซึ่งเข้ามาฝึกปรือฝีเท้ากับสโมสรตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ออกจากถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในช่วงตลาดพ่อค้าแข้งรอบ 2 เดือนมกราคมนี้

แรชฟอร์ด เปิดใจกับ เฮนรี่ วินเทอร์ นักข่าวสายกีฬามากประสบการณ์ ขณะไปร่วมงานแจกของขวัญ 420 ชิ้นให้กับเด็กๆ ที่ บัตตัน เลน โรงเรียนประถมเก่าของเขา ว่า “สำหรับผมโดยส่วนตัวแล้วผมพร้อมสำหรับความท้าทายใหม่ และการก้าวต่อไป เมื่อผมย้ายออกไปจะไม่มีความรู้สึกแย่ๆ แม้แต่นิดเดียว”

“คุณจะไม่มีทางได้ยินการแสดงความเห็นในแง่ลบต่างๆ จากตัวผมที่เกี่ยวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นี่แหละตัวตนของผม ถ้าผมรู้ว่าสถานการณ์มันย่ำแย่ผมจะไม่ทำให้มันแย่ลงไปอีก ในอดีตผมเคยเห็นนักเตะหลายคนย้ายออกไป และผมไม่อยากเป็นคนแบบนั้น หากผมจะย้ายทีมผมจะแสดงจุดยืนที่เป็นตัวของผมเองออกมา”

ส่วนคำถามที่ว่าเขาจะยังเป็นแฟนบอลแมนยูไนเต็ดตลอดไปใช่ไหม เรื่องนี้ ดาวยิงดีกรีทีมชาติอังกฤษ วัย 27 ปีตอบเสียงดังฟังชัดว่า” ใช่ ร้อยเปอร์เซนต์ เต็มร้อยแน่นอน”

กรณีที่โดนตัดชื่อออกจากทีมในเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ นั้น แรชฟอร์ด ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ทำให้ผิดหวังมากๆ “มันเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังที่โดนตัดชื่อออกจากทีมในเกมดาร์บี้ แต่มันเกิดขึ้นแล้ว เราชนะในเกมนั้น และต้องเดินหน้าต่อไป”

“แน่นอนว่ามันน่าผิดหวัง แต่ตอนนี้ผมอายุมากขึ้นซึ่งสามารถรับมือกับความผิดหวังได้ ผมจะทำยังไงกับเรื่องนี้นะเหรอ ? นั่งร้องไห้ หรือทำให้ดีขึ้นเพื่อที่จะได้เล่นในครั้งต่อไป”

“ผมผ่านเข้าสู่ครึ่งทางในอาชีพของผม ตอนนี้ผมไม่คิดว่าผมอยู่ในช่วงพีคสุด ผมเล่นในเกมพรีเมียร์ลีกมาแล้ว 9 ปี และมันสอนอะไรผมมากมาย สิ่งนี้ช่วยผมให้เติบโตในฐานะนักเตะ และในฐานะคนๆ นึง ดังนั้นผมไม่มีอะไรต้องเสียใจกับ 9 ปีที่ผ่านมา”

“ผมจะไม่เสียใจกับการก้าวเดินต่อไป เพราะผมพร้อมแบกรับทุกอย่างแบบวันต่อวัน และบางครั้งก็มีเรื่องแย่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ขณะเดียวกันก็มีเรื่องดีๆ ขึ้นเกิดเยอะแยะเช่นกัน ผมก็แค่พยายามรักษาสมดุลให้ดีที่สุด” แรชฟอร์ด ร่ายยาว