เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก้มหน้ารับ ทีมมีโอกาสไม่ได้สิทธิ์เล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับว่าตอนนี้ทีมของตนเสี่ยงที่จะไม่ได้สิทธิ์เล่นศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า
ปัจจุบัน พรีเมียร์ลีก กำลังมีค่า European Performance Spot หรือค่าสัมประสิทธิ์ของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) นำโด่งมาเป็นอันดับ 1 ทำให้มีโอกาสสูงที่พวกเขาจะได้สิทธิ์เล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้าเพิ่มจาก 4 ทีมเป็น 5 ทีม เหมือนที่ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี กับ บุนเดสลีกา เยอรมัน ได้สิทธิ์นั้นในซีซั่นนี้
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ แมนซิตี้ ก็ไม่ได้ติดอยู่ใน 5 อันดับแรกของตารางคะแนนด้วยซ้ำ หลังจากพักหลังพวกเขามีผลงานย่ำแย่จนปัจจุบันอยู่ในอันดับ 7 โดยที่จริง “เรือใบสีฟ้า” ได้สิทธิ์เล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้ว 14 ฤดูกาลติดต่อกัน ซึ่งมีเพียง อาร์เซน่อล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เคยได้โควตาเล่นเกมชิงถ้วยบิ๊กเอียร์ติดต่อกันนานกว่าพวกเขา
กวาร์ดิโอล่า เผยว่า “ครั้งก่อนที่ผมเคยพูดเรื่องแบบนี้หลายคนหัวเราะกันลั่น พวกเขาบอกว่า -การได้สิทธิ์เล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก มันไม่ใช่ความสำเร็จที่ใหญ่โตสักหน่อย- แต่ผมรู้ดีว่ามันเป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยม เพราะมันเคยเกิดเรื่องแบบนั้นกับหลายสโมสรในประเทศนี้ พวกเขาเคยครองความยิ่งใหญ่ได้เป็นเวลาหลายปี แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่ได้สิทธิ์เข้าเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก หลายปี”
“ตลอดช่วงหลายปีมานี้มีแค่ทีมเดียวที่ได้เข้าไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ติดต่อกันทุกฤดูกาล นั่นคือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ตอนนี้เราสุ่มเสี่ยงที่จะชวดสิทธิ์นั้น แน่นอนว่ามันเป็นแบบนั้น มันมีหลายทีมที่ได้ลุ้นโควตานี้ มันเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ กับทุกสโมรส และถ้าเราเก็บชัยชนะนัดต่างๆ ไม่ได้เราก็จะหลุดจากโควตานั้น”
“ถ้าเราไม่ได้สิทธิ์เล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก มันก็เป็นเพราะเราไม่คู่ควรกับมันเอง มันเป็นเพราะเราเตรียมความพร้อมกันได้ไม่ดี, เป็นเพราะเรามีปัญหาหลายอย่าง และเป็นเพราะเราแก้ไขปัญหาเหล่านั้นไม่ได้”
สำหรับค่า European Performance Spot จะวัดจากผลงานของสโมสรจากแต่ละลีกที่ได้สิทธิ์ลงเล่นเกมถ้วยยุโรปในซีซั่นนั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อทีมจาก พรีเมียร์ลีก เก็บชัยชนะในรอบลีกได้นั้น ลีกของอังกฤษก็จะได้ 2 แต้ม, ได้ 1 แต้มเมื่อมีผลเสมอ และจะไม่ได้แต้มเลยเมื่อมีทีมที่แพ้ ส่วนในรอบน็อกเอาต์จะดูผลการแข่งขันในช่วงต่อเวลาพิเศษด้วย ซึ่งถ้าเกมจบลงในช่วงต่อเวลาพิเศษก็จะใช้ระบบนับแต้มแบบของลีก แต่ถ้าลากยาวถึงดวลจุดโทษจะถูกนับให้เป็นผลเสมอ
หลังจากนั้นจะมีการเอาแต้มมารวมกัน แล้วค่อยหารด้วยจำนวนสโมสรของแต่ละชาติที่ได้สิทธิ์ลงเล่นเกมถ้วยยุโรปทั้ง 3 รายการในซีซั่นนั้นๆ เพื่อเอาคะแนนขั้นสุดท้าย ซึ่งลีกที่มีค่าสัมประสิทธิ์ดีที่สุด 2 อันดับแรก จะได้โควตาลงเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก เพิ่มอีก 1 ที่