มาร์คัส แรชฟอร์ด วิจารณ์ แมนยู ขาดหลักการ
ความสัมพันธ์ระหว่าง แรชฟอร์ด กับ อโมริม เริ่มแตกร้าวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว หลังนายใหญ่ชาวโปรตุกีสเข้ารับตำแหน่งกุนซือใหม่ของ “ปีศาจแดง” ส่งผลให้อนาคตของแข้งทีมชาติอังกฤษหลุดลอยจากถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดเป็นเรื่องชัดเจน
แม้เคยมีข่าวโยงกับ แอสตัน วิลล่า ที่ยืมตัวเขาไปร่วมทัพในเดือนมกราคม แต่สุดท้าย แรชฟอร์ด เลือกย้ายไป บาร์เซโลน่า เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา กลายเป็นนักเตะอังกฤษคนแรกในรอบศตวรรษที่ลงเล่นให้ “เจ้าบุญทุ่ม” ต่อจาก แกรี ลินิเกอร์
ในรายการพอดแคสต์ The Rest is Football ที่ให้สัมภาษณ์ร่วมกับ ลินิเกอร์ นั้น แรชฟอร์ดกล่าวถึงความเปลี่ยนแปลงในทีมเก่า โดยระบุว่าหลักการที่ เฟอร์กูสัน เคยสร้างไว้ถูกละทิ้งไปหมด
“โชว์ให้ผมดูสิว่าทีมไหนที่ประสบความสำเร็จแค่เพราะคอยปรับตัวไปเรื่อย ๆ ตอนยุค เฟอร์กี้ หลักการของทีมไม่ได้มีแค่ในชุดใหญ่ แต่ยังอยู่ในอะคาเดมีทั้งหมด เด็กอายุ 15 ปีขึ้นมาก็รู้แล้วว่าต้องเล่นสไตล์ แมนฯ ยูไนเต็ด แบบไหน”
“ทีมที่ประสบความสำเร็จในระยะยาวต้องมีหลักการที่ชัดเจน ไม่ว่าโค้ชหรือนักเตะใหม่จะเข้ามาก็ต้องสอดคล้องและเสริมสิ่งเหล่านั้น แต่ ยูไนเต็ด ในบางช่วงหิวชัยชนะจนทำทุกอย่างแบบฉับพลัน ถ้าทิศทางเปลี่ยนตลอดก็อย่าหวังว่าจะได้แชมป์ลีก”
แรชฟอร์ด วัย 27 ปีเผยว่า การไปเล่นให้ วิลล่า ในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลที่แล้วทำให้เขาเห็นชัดว่าการ “เปลี่ยนผ่าน” ของทีมปีศาจแดงยังไม่เริ่มต้นจริง แม้จะพูดถึงมาหลายปีแล้วก็ตาม
“คนชอบบอกว่าเราอยู่ในช่วงทรานซิชันมานาน แต่ถ้าจะเรียกว่าทรานซิชัน คุณต้องเริ่มมันก่อน ยูไนเต็ด ยังไม่ได้เริ่มเลยด้วยซ้ำ”
“ดูอย่างลิเวอร์พูล พวกเขาเอา (เจอร์เก้น) คล็อปป์ มาแล้วเชื่อมั่นในตัวเขา ถึงแม้จะไม่ชนะอะไรในตอนแรก แต่ก็วางแผนและยึดตามนั้นจนสุดท้ายก็ประสบความสำเร็จ”
ทั้งนี้ ดีลยืมตัว แรชฟอร์ด ไป บาร์เซโลน่า มีเงื่อนไขซื้อขาดในราคา 30.3 ล้านปอนด์ หลังจบฤดูกาล 2025/26 และจากคำพูดล่าสุด ดูเหมือนโอกาสที่เขาจะกลับไปแมนยูแทบเป็นศูนย์ ซึ่งเพิ่มความเป็นไปได้สูงที่เจ้าตัวจะอยู่ค้าแข้งในถิ่นคัมป์ นูแบบถาวร
